การพัฒนาบาร์โค้ดในอนาคต เพิ่มความจุและความหนาแน่นของข้อมูลของบาร์โค้ด ทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น เช่น รูปภาพ เสียง วิดีโอ ฯลฯ ความจุและความหนาแน่นของข้อมูลของบาร์โค้ดหมายถึงปริมาณข้อมูลที่บาร์โค้ดสามารถจัดเก็บได้และจำนวนข้อมูลต่อหน่วยพื้นที่ บาร์โค้ดประเภทต่างๆ มีความจุและความหนาแน่นของข้อมูลที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว ความจุของ บาร์โค้ดสองมิติและความหนาแน่นของข้อมูลสูงกว่าบาร์โค้ดแบบหนึ่งมิติ ปัจจุบัน มีเทคโนโลยีบาร์โค้ดใหม่ๆ อยู่แล้ว เช่น บาร์โค้ดสี บาร์โค้ดที่มองไม่เห็น บาร์โค้ดสามมิติ ฯลฯ เทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนพยายามเพิ่มความจุและความหนาแน่นของข้อมูลของบาร์โค้ด แต่ก็ต้องเผชิญกับทางเทคนิคบางประการเช่นกัน และความท้าทายในการใช้งาน ดังนั้น ยังมีพื้นที่และความเป็นไปได้ที่จะปรับปรุงความจุและความหนาแน่นของข้อมูลของบาร์โค้ด แต่ยังต้องมีนวัตกรรมและการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ปรับปรุงความปลอดภัยและการป้องกันการปลอมแปลงบาร์โค้ด โดยใช้การเข้ารหัส ลายเซ็นดิจิทัล ลายน้ำ และเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้บาร์โค้ดถูกปลอมแปลงหรือดัดแปลง โดยเฉพาะ มีหลายวิธี: การเข้ารหัส: เข้ารหัสข้อมูลในบาร์โค้ดเพื่อให้สามารถถอดรหัสได้โดยอุปกรณ์หรือบุคลากรที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลหรือการปรับเปลี่ยนที่เป็นอันตราย ลายเซ็นดิจิทัล: เพิ่มลายเซ็นดิจิทัลลงในบาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาและความสมบูรณ์ของบาร์โค้ด และป้องกันไม่ให้บาร์โค้ดถูกปลอมแปลงหรือดัดแปลง ลายน้ำ: ลายน้ำถูกฝังอยู่ในบาร์โค้ดเพื่อระบุเจ้าของหรือผู้ใช้บาร์โค้ด และป้องกันไม่ให้บาร์โค้ดถูกขโมยหรือคัดลอก เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถปรับปรุงความปลอดภัยและการป้องกันการปลอมแปลงบาร์โค้ดได้ แต่ยังจะเพิ่มความซับซ้อนและราคาของบาร์โค้ดด้วย ดังนั้นจึงต้องเลือกและออกแบบตามสถานการณ์และความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน |